Skip to Content

10 ประโยชน์ที่คุณจะได้รับเมื่อเปลี่ยนมาใช้ Multi cloud

บทความนี้จะพามารู้จักกลยุทธ์ในการใช้ Cloud ชนิดหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์สุดฮอตแห่งอนาคตเลยก็ว่าได้ ก็คือ Multi-Cloud นั่นเอง และ Multicloud คืออะไร จะต่างกับ Cloud แบบอื่นๆ ยังไง แล้วทำไมถึงต้องเลือกใช้ จะมีประโยชน์ยังไงต่อระบบขององค์กรคุณ ลองมาดูกัน

Multil Coud คืออะไร?

Multicloud คือการใช้งาน Cloud กับผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะตั้งแต่สองรายขึ้นไป เพื่อให้บริการด้านไอที และโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร โดยไม่พึ่งพาผู้จำหน่ายระบบคลาวด์เพียงรายเดียว อาจเลือกใช้ทรัพยากรจากผู้ให้บริการหลายรายเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดจากบริการเฉพาะแต่ละอย่าง ซึ่งผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ แต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกันไป

Multicloud โดยทั่วไปประกอบด้วยผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะรายใหญ่หลายรายรวมกัน เช่น Amazon Web Services (AWS), Google Cloud Platform (GCP), Microsoft (Azure) และ IBM

ยกตัวอย่างการที่องค์กรเลือกบริการที่ดีที่สุดจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์แต่ละรายโดยพิจารณาจากต้นทุน ข้อกำหนดทางเทคนิค ความพร้อมใช้งานตามภูมิศาสตร์ และปัจจัยอื่นๆ เช่น บริษัทใช้ Google Cloud สำหรับการพัฒนา/ทดสอบ ในขณะที่ใช้ AWS สำหรับการกู้คืนจากความเสียหายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด และใช้ Microsoft Azure เพื่อประมวลผลข้อมูลการวิเคราะห์ทางธุรกิจ

ประโยชน์ของ Multicloud

1. Ability to Find the Best-in-Class Multi Cloud Providers                                       

เมื่อรวมระบบคลาวด์หลายตัวเข้ากับกลยุทธ์ด้านไอทีของบริษัท ผู้ดูแลระบบสามารถจัดวางความต้องการทางธุรกิจของตนกับผู้ให้บริการคลาวด์โฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับงานแต่ละงาน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกผู้ให้บริการระบบคลาวด์โดยพิจารณาจากความเร็วในการอัปโหลดที่สูง ในขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นสามารถรับประกันเงื่อนไขข้อตกลงระดับบริการที่ดีกว่าได้ ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ผู้ใช้สามารถบรรลุความคล่องตัวในระดับสูง และจับคู่แต่ละส่วนของธุรกิจกับเงื่อนไขการตั้งค่าและการดำเนินการของผู้ให้บริการเฉพาะ แทนที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนการของคุณเพื่อรองรับความต้องการของผู้ให้บริการ คุณมีอิสระในการเข้าถึงตัวเลือกต่างๆ มากมาย โดยแต่ละตัวเลือกจะมีความเหมาะสมที่สุดสำหรับส่วนต่างๆ ของธุรกิจของคุณ

2. Competitive Pricing

เมื่อผู้ให้บริการคลาวด์หลายรายเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดทมีการแข่งขันสูงซึ่งมุ่งมั่นที่จะเสนอราคาและปริมาณความจุ Storage ที่เหมาะสมที่สุด ในขณะที่ยังคงดึงดูดผู้ใช้คลาวด์ส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงสามารถเพลิดเพลินกับอิสระในการเปรียบเทียบผู้ให้บริการต่างๆ และรับอัตราที่ดีที่สุดตามความต้องการด้านไอทีเฉพาะของตน และเนื่องจากคุณไม่ได้จำกัดอยู่เพียงข้อกำหนดของผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใดรายหนึ่ง คุณสามารถเลือกผู้ขายที่ดีที่สุดตามข้อเสนอ เช่น ความยืดหยุ่นในการชำระเงิน สัญญาที่ปรับเปลี่ยนได้ ความจุที่ปรับแต่งได้ และองค์ประกอบที่สำคัญอื่นๆ

3. Agility                                                                                                              

การวางแผนกลยุทธ์มัลติคลาวด์ไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทแบบดั้งเดิมจำนวนมากยังคงประสบปัญหากับระบบไอทีแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างภายในองค์กรหรือ ด้าน ซัพพลายเออร์ด้านฮาร์ดแวร์ ทำให้ไม่สามารถก้าวเข้าสู่การทำงานแบบ Multicloud ได้ด้วยตนเอง ดังนั้นการหาผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Multicloud ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะสามารถออกแบบและจัดทำ Solution ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน เพิ่มความคล่องตัวให้กับองค์กรของคุณ ทั้งในด้านของการดูแลและการทำงานของระบบคลาวด์แพลตฟอร์มคลาวด์ที่ต่างกัน การจัดเก็บข้อมูล และไฮเปอร์ไวเซอร์ แต่ละเจ้าที่ต่างกัน

4. Bolstered Resilience

การจัดการมัลติคลาวด์ยังสามารถช่วยปกป้องแอปพลิเคชันและข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัท โดยนำเสนอความสามารถในการสำรองและกู้คืนข้อมูลสำรองที่ให้ความต่อเนื่องทางธุรกิจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเกิดจากดิสก์ที่ล้มเหลว ไฟดับ หรือภัยธรรมชาติ การเพิ่มชิ้นส่วนระบบคลาวด์หลายส่วนในกลยุทธ์การกู้คืนจากความเสียหายจะมอบระดับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยนำเสนอความสามารถในการจำลองทรัพยากรของคุณในพื้นที่คลาวด์ห่างจากพื้นที่ภัยพิบัติ

5. Flexibility and Scalability

ในปัจจุบันที่มีข้อมูลเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างมากมายมหาศาล ทำให้การเตรียมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น Multicloud ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บและประมวลผลด้วยระบบอัตโนมัติ รวมถึงการ Sync แบบ Real timeเนื่องจาก Multi-Cloud เรียกได้ว่าเป็น Solution ที่สมบูรณ์แบบ เพราะไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของตนได้ตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการแล้วผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลายรายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เพื่อให้องค์กรทั้งหลายสามารถเลือกลงทุนในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย ห่างไกลจากความเสี่ยงด้านภัยพิบัติต่างๆ ได้อีกด้วย

6. Robust Security

เนื่องจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลและรักษาความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง รวมถึงต้องได้รับการรองรับจากมาตรฐานต่างๆ ในระดับสากล ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าระบบขององค์กรคุณจะปลอดภัย แต่เบื้องต้นผู้ใช้งานต้องทำการพิจารณาก่อนใช้งานจริงว่าคลาวด์แบบใดที่เหมาะสมกับการใช้งานขององค์กรคุณ นอกเหนือจากความปลอดภัยบนระบบคลาวด์แล้ว ความปลอดภัยของเครือข่ายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักถึง เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานและ Software ขององค์กรมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

7. Network Performance Improvements

การเชื่อมต่อระหว่างคลาวด์สาธารณะหลายเจ้า ช่วยให้สามารถใช้งานบนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเร็วสูงและมี Latency ต่ำ เนื่องจากองค์กรสามารถขยายเครือข่าย ไปยังผู้ให้บริการต่างๆ ที่มีการให้บริการบนโครงสร้างพื้นฐานที่กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ ทำให้ระบบมีความเสถียร มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

8. Enhanced Risk Management

การจัดการความเสี่ยงเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่มาพร้อมกับการใช้ Multicloud หากผู้ให้บริการคลาวด์รายหนึ่งเกิดการมีปัญหาของโครงสร้างพื้นฐานหรือถูกโจมตีโดย Ransomware ต่างๆ ผู้ใช้มัลติคลาวด์สามารถสลับไปยังผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นหรือสำรองข้อมูลไปยังคลาวด์ส่วนตัวได้อย่างรวดเร็ว ผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลายรายสามารถลดความเสี่ยงได้โดยใช้ระบบที่ซ้ำซ้อนและเป็นอิสระ ซึ่งมีการพิสูจน์ตัวตนในการเข้าถึงอย่างปลอดภัย มีการทดสอบช่องโหว่ แต่วิธีเดียวที่จะรับรองได้ว่ามีระบบการจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่งคือการใช้การรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น

9. Avoiding Vendor Lock-in

หลายบริษัทคุ้นเคยกับการ Lock-in ของผู้ขายจากการติดต่อกับบริษัทองค์กรแบบเดิมๆ ทำให้เกิดการต้องผูกติดกับผู้บริการเพียงรายเดียว แต่เมื่อองค์กรเริ่มมาใช้งานคลาวด์สาธารณะ จะสามารถตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขบางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ผู้ที่ใช้บริการตัดสินใจในเรื่องของการเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งาน Multicloud นั้น คือการใช้บริการของผู้ให้บริการคลาวด์หลายๆ รายร่วมกัน ทำให้ลดปัญหาในเรื่องของการผู้ติดกับผู้บริการเพียงราย รวมถึงเรื่องการล็อกทำให้ไม่สามารถไปใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่นอีกด้วย

10. Drives Innovation

บริษัทสามารถประสานงานปริมาณงานที่แตกต่างกัน จัดการเวิร์กโฟลว์แบบไฮบริด และผสานรวมกระบวนการ DevOps เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านกระบวนการจัดการมัลติคลาวด์แบบอัตโนมัติ ระบบอัตโนมัติช่วยให้มั่นใจถึงการประสานข้อมูล แอปพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลาย ขยายความสามารถในการปรับใช้โดยเชื่อมต่อแอปพลิเคชันและกระบวนการเวิร์กโฟลว์เพื่อให้บริการทางธุรกิจ  อย่างรวดเร็ว

แปลโดย : kirz.com 

อ้างอิงจาก : acronis.com







ข้อแตกต่างระหว่าง Corporate Internet VS Home Internet